วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Chapter 5 : วงกลมของคนและสื่อ


            
           วงกลมของคนและสื่อ

            เมื่อสื่อกลายเป็นกระจกสะท้อนความเสื่อมของสังคม ผ่านภาษาที่ใช้ขายข่าว
            
            สังคมที่ว่า เป็นทั้งสังคมของคนเสพสื่อ และสังคมผลิตสื่อ
          
          ‘9 ขาโจ๋เดนทรชน หื่นกามลวง 2 เหยื่อสาวไปขืนใจสุดวิตถาร ขณะเหยื่อยืนรอรถกลับบ้านกลางดึก เชิงสะพานพระราม 5 ย่านเมืองนนท์ ลากเข้าพงหญ้าจับถอดเสื้อผ้าเรียงคิวข่มขืนเมามัน บังคับให้อมนกเขากับใช้หอยทากเดินไต่บนร่างเหยื่อให้สยิวปลุกเร้าอารมณ์

            หนึ่งในตัวอย่างของการไร้ความรับผิดชอบต่อความเสียหายของเหยื่อผ่านการใช้ภาษา จนคล้ายกับเป็นการทำร้ายเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่สื่ออยู่ในสถานะที่ควรรับผิดชอบต่อสังคม

            ความรุนแรงในด้านการใช้ภาษา แม้ไม่มีการเก็บรวบรวมเป็นสถิติ แต่มันช่างเด่นชัดในความรู้สึกของผู้พบเห็น และเกิดเป็นการส่งสารจากผู้ซื้อข่าว กลับไปยังผู้ขายข่าว

            แน่นอนว่าสื่อต้องรู้อยู่แล้วว่ามันผิดทั้งผิดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพและยังผิดต่อการรับผิดชอบความรู้สึกของผู้ถูกกระทำในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่สื่อก็ยังขายข่าวในลักษณะเช่นนี้ อาจเพราะยอดไลค์ ยอดแชร์จากคนเสพสื่อที่เป็นการเปิดทางอ้อมๆ ให้สื่อยังทำข่าวบนเส้นทางที่ไร้ความรับผิดชอบต่อไป

           'นี่ไงข่าวมีสาระ พอมีสาระพวกอึงก็ไม่ค่อยเม้น ไม่ค่อยสนใจกัน พอข่าวไร้สาระอย่างอุ้มหอย คอมเมนต์เป็นพัน สนใจกันอิบหาย ผู้ใช้เฟซบุ๊คท่านหนึ่งคอมเมนต์ในเพจข่าวออนไลน์ชื่อดัง

          ในมุมของผู้เขียนคิดว่า ไม่มีมนุษย์คนใด อยากอ่านเรื่องราวที่เจ็บปวดของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง แต่การที่สื่อใช้ทั้งภาพและตัวอักษรอย่างรุนแรง เพื่อดึงความสนใจ เรียกยอดไลค์ ยอดแชร์ข่าว ก็คงสะท้อนพฤติกรรมเสพข่าวของคนในสังคมเราได้ไม่น้อย

            พูดตามตรงก็คือ สำหรับคนทำสื่อ ข่าวมีไว้ขาย หากคนไม่สนใจ ข่าวขายไม่ออก สื่อก็อยู่ไม่ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมการพาดหัว หรือการโปรยข่าวของหนังสือพิมพ์ประเภทหัวสีถึงเป็นไปในทำนองนั้น

            แต่ที่สุด หากหัวข้อนี้กระทบความรู้สึกหรือเป็นกระแสในสังคมว่า ล้ำเส้น หรือ ไม่เหมาะสม จริง สื่อก็จะได้รับฟีดแบ็กกลับไปเหมือนกัน ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทางออนไลน์ คุณชัยณรงค์ กิตินารถอินทราณี นักข่าว หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจกล่าว

            จะว่าไปความสัมพันธ์ของคนขายข่าวกับคนซื้อข่าวก็ดูเหมือนวงจรกลมๆ ที่หล่อหลอมกันและกัน จนอดคิดไม่ได้ว่า หากทั้งคู่ยังคงมีพฤติกรรมการเสพสื่อและผลิตสื่อเช่นนี้ อนาคตของเยาวชนผู้อยู่ในฐานะ เด็กที่เสพสื่อ จะเป็นเช่นไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น